Doctor Chin Clinic
ผู้ให้บริการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ทวงคืนความมั่นใจให้ตัวคุณ
ถ้าคุณต้องการปลูกผมด้วยเทคนิค FUE ควรเลือกคลินิกที่มีประสบการณ์สูง เพราะทุกขั้นตอนในการทำจำเป็นต้องใช้ความชำนาญ เพื่อให้ได้เส้นผมที่ดูเป็นธรรมชาติ โดยแต่ละเทคนิคจะมีจุดเด่นที่แตกต่างกันออกไป หากสนใจอยากปรับเปลี่ยนบุคลิกภาพ
แก้ปัญหาผมบาง ผมล้าน หรือไม่มั่นใจกับความกว้างของหน้าผาก สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และเข้ามาปรึกษาได้ที่ DR.Chin Clinic
เรามีเทคนิคการปลูกผมให้เลือกหลากหลาย เพื่อเลือกใช้เทคนิคที่เหมาะกับปัญหาเส้นผมของคุณ ให้บริการโดยผู้เชี่ยวชาญอย่าง “คุณหมอชิน” นายแพทย์หนุ่มไฟแรงมากประสบการณ์ มั่นใจได้เลยว่าผลลัพธ์ออกมาดี พร้อมดีมีความปลอดภัยอย่างแน่นอน
การปลูกผมแบบ FUE คืออะไร
การปลูกผมแบบ FUE ย่อมาจาก Follicular Unit Hair Transplant เป็นการปลูกผมแบบไร้รอยต่อที่ใช้หัวเจาะซึ่งเป็นเครื่องมือพิเศษที่ทำจากโลหะไทเทเนียม หัวเจาะมีขนาดประมาณ 0.8 ถึง 1.0 มิลลิเมตร เริ่มต้นจากการเจาะเอาเซลล์รากผม ในบริเวณด้านหลังหัวซึ่งเป็นเซลล์ที่สมบูรณ์และแข็งแรงที่สุดมาใช้ จากนั้นนำเซลล์รากผมมาปลูกตรงตำแหน่งใหม่ที่ต้องการ วิธีการนี้จะทำให้ไม่เห็นรอยแผล และเซลล์รากผมในบริเวณที่ปลูกใหม่จะมีความแข็งแรง เหมือนเป็นผมจริงให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติ ถ้าหากคุณต้องการปลูกผม และอยู่ใกล้เคียงจังหวัดนครสวรรค์ สามารถติดต่อที่คลินิกของเราเพื่อรับคำปรึกษาได้ทันที
ข้อดี
– หลังจากที่ปลูกผมหนังศีรษะจะมีเลือดออกน้อย ไม่รู้สึกเจ็บหรือแห้งตึง
อัตราการเกิดของเส้นผมใหม่มีสูง
– แผลมีขนาดเล็กไม่มีรอยแผลเป็นจากการผ่าตัด
– หนังศีรษะฟื้นฟูและสมานแผลได้ค่อนข้างไว
– เส้นผมใหม่ที่งอกขึ้นมาจะมีความแข็งแรง เพราะเลือกจากเซลล์ที่สมบูรณ์และแข็งแรงที่สุด
– เส้นผมที่ปลูกขึ้นมาใหม่มีความสมบูรณ์และดูเป็นธรรมชาติ
– ปรับบุคลิกภาพให้ดูดีมากขึ้น ใบหน้าแลดูอ่อนวัย เนื่องจากความหนาของเส้นผมที่มากขึ้น
Micrograft FUE คืออะไร
การปลูกผมด้วยเทคนิค Micrograft FUE เป็นเทคนิคที่มีความพิเศษกว่า FUE จากการที่สามารถเพิ่มความหนาแน่นของผมที่ปลูกได้ โดยนำเครื่องมือขนาดเล็กเจาะเซลล์ผมเพื่อย้ายกราฟผมที่แข็งแรงจากบริเวณท้ายทอย เพื่อมาปลูกในจุดที่ต้องการ ซึ่งกราฟผมที่ย้ายมาจะผ่านการตัดแต่งเนื้อเยื่อ และเลือกแต่ส่วนที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตของรากผม ทำให้เส้นผมที่ขึ้นมาใหม่สามารถเจริญเติบโตได้ตามวงจรชีวิตของเส้นผมที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ
DHI คืออะไร
ปลูกผมด้วยเทคนิค DHI หรือ Direct Hair Implantation คือการตกแต่งกราฟรากผม หลังจากนั้นใช้ Implanter ปัก การใช้เทคนิคนี้จะทำให้เห็นผลที่ดูหนาแน่นขึ้นได้ในทันที ไม่เกิดรอยแผล ทำให้เส้นผมที่ปักลงไปดูเป็นธรรมชาติ การเจาะกราฟจะใช้บริเวณหลังศีรษะ ใช้เครื่องมือ DHI Implanter ในการปัก ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ปลอดภัยและได้มาตรฐาน ถ้าหากสนใจเทคนิคนี้ สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่คลินิกของเราได้ทันที เรามีทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญพร้อมให้คำแนะนำ และเสนอเทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
สำหรับการปลูกผมเป็นทางเลือกที่ช่วยเสริมบุคลิกภาพ อีกทั้งยังช่วยแก้ปัญหาผมบาง เสริมความมั่นใจให้กับคุณ หากใครที่ต้องการแก้ปัญหาผมบางกลางศีรษะ หรือมีความกังวลเรื่องหัวล้าน หัวเถิก เลือกมาใช้บริการกับ DR.Chin Clinic ของเรา เรามีทีมแพทย์เฉพาะทางพร้อมให้คำปรึกษาในทุกปัญหาเส้นผม จากประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนานของคุณหมอชิน จะทำให้ทุกคนได้ผลลัพธ์ในแบบที่ต้องการ ด้วยราคาเบา ๆ ในหลักหมื่นเพียงเท่านั้น
การเตรียมตัวก่อนปลูกผม
1. เตรียม งด สูบบุหรี่ อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการปลูกผม เนื่องจากการสูบบุหรี่จะทำให้หลอดเลือดตีบ ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงบริเวณกราฟได้ไม่ดี โอกาสติดของกราฟจะลดต่ำลง
2. กลุ่มคนทีมีโรคประจำตัว และ มียาที่ต้องทานประจำ จำเป็นต้องปรึกษาแพทย์ประจำตัวให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดทุกชนิด เช่น ยาละลายลิ่มเลือด ยาลดความดันโลหิต ยาลดระดับนำตาลในเลิอด
3. กลุ่มคนที่รับประทานวิตามินต่างๆ เช่น Vitamon C, Astaxantin, Vitamin E, น้ำมันตับปลา จะมีผลในเรื่องของการแข็งตัวของเลือด ทำให้เลือดออกง่าย หยุดยาก การเชียวช้ำจะเยอะกว่าปรกติ
4. กลุ่มคนที่รับประทานเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แนะนำให้หยุดรับประทานก่อนมาปลูกผม อย่างน้อย 1 สัปดาห์
5. วันที่มาปลูกผม แนะนำให้รับประทานอาหารมาให้อิ่มแต่พอดี ร่วมกับ สวมเสื้อเชิ๊ต ไม่แนะนำให้ใส่เสื้อยืด เนื่องจากเวลาถอดจะทำให้กราฟมีโอกาสหลุดได้
6. กรณีเดินทางมาไกล แนะนำให้จองที่พักใกล้ๆกับคลินิก เนื่องจากเช้าวันถัดไปหลังปลูกผม จะต้องเข้ามาคลินิกเพื่อล้างแผล
1. ห้ามทำกราฟหลุดเด็ดขาด ภายใน 10 วันแรก ข้อนี้สำคัญมากๆ ถ้าหลุด คือจากเราไปเลยนะคับ ห้ามดึง แกะ เกา
2. การสระผม
กรณีเทคนิก FUE จะเริ่มสระผมบริเวณที่ปลูก วันที่ 5
กรณีเทคนิก DHI จะเริ่มสระผมบริเวณที่ปลูก วันที่ 1
วิธีการสระจะเป็นการใช้แชมพูที่ทางคลินิกจัดเตรียมไว้ให้ หมัก 5 นาที แล้วล้างออกด้วน้ำไหลเบาๆ จะเริ่มสระตามปรกติในวันที่ 4
3. สำหรับสายกีฬา
– ฟิตเนส แนะนำให้ไม่ออกแรงมาก ไม่มีเหงื่อออก หลังปลูกผมสัปดาห์ที่2
– วิ่งกลางแจ้ง กีฬาทางน้ำ จะเริ่มออกกำกังกายได้ หลังปลูกผมสัปดาห์ที่ 4
4. การนอน หลังปลูกผม ทางคลินิกจะให้หมอนรองคอ
วิธีีการนอน แนะนำให้นอนบนหมอนรองคอที่คลินิกให้ไป เพื่อลดโอกาสการเสียดสีของผิวหนังบริเวณศีรษะ และลีอกศีรษะไว้ ทำให้ลดโอกาสการสัมผัสของบริเวณกราฟส่วนหน้า
กราฟต์ = รูขุมขน
1 รูขุมขน จะมีเส้นผม 1-4 เส้น
แต่ละบุคคลมีขนาดของบริเวณกระโหลกศีรษะและเส้นผมที่แตกต่างกัน จึงใช้ปริมาณ “กราฟต์” ไม่เท่ากัน
เป็นเทคนิกการปลูกผมที่ทำให้เหมาะกับสังคมยุคใหม่ที่รีบเร่ง
ข้อดี
1.หลังทำเสริม ไม่ต้องลางาน ไม่ต้องพักฟื้น
2.การดูแลง่าย
3.แผลขนาดเล็ก ไม่เจ็บขณะทำ
เป็นเทคนิกการปลูกผมโดยใช้ปากกานำปลูก
ข้อดี
1.กราฟเรียงสวย แน่น สามารถจัดเรียงตามแนวผมธรรมชาติอย่างละอียด
2.กราฟขอบซึ่งน้อยกว่า ทำให้อัตราการขึ้นของผมสูงกว่า
3.สะเก็ดแผลน้อย สามารถสระผมได้ตั้งแต่วันแรก
มี2 วิธีหลัก
วิธีที่ 1 Follicular Unit Transplant ( FUT )
เป็นการตัดเอาเนื้อเยื่อของผมมาเป็นชิ้นใหญ่ๆ แล้วตัดแบ่งเป็นกอผมเล็กๆ แต่วิธีนี้มีข้อเสียใหญ่ๆ คือ บริเวณแผลด้านหลังจะมีขนาดใหญ่ทำให้ไม่เป็นที่นิยม
วิธีที่ 2 Follicular Unit Extraction (FUE )
คือ การเจาะกราฟเป็นกราฟเล็กๆ จากบริเวณ safe zone ทำให้เกิดแผลขนาดเล็ก เวลาที่ผมยาวขึ้น ก็จะไม่เห็นบริเวณแผล แต่กรณีตัดผมเกรียน ก็จะสามารถเห็นได้
ส่วนวิธีอื่นๆ เช่น เทคนิค micrograft, DHI, Long Hair นับได้ว่าเป็นเทคนิคที่สูงขึ่นจากเทคนิค FUE โดยเป็นการพัฒนาเทคนิคให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น อาจจะเรียกได้ว่า Advanced FUE
คือ จริง ส่วนนึงคับ
สำหรับคนไข้ที่ต้องใข้ยาต่อเนื่อง คือ คนไข้ที่ผบบางจากสาเหตุทางพันธุกรรม ซึ่งผมมบางตามพันธุกรรม เป็นคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้ามารักษาที่คลินิก การรับประทานยา finasteride และ minoxidril
ในคนไข้ที่ผมบางจากพันธุกรรมที่ปลูกผมแล้ว ไม่รักษาต่อเนื่องจะเกิดอะไรขึ้น
ผมบริเวณที่ได้รับอิทธิพลจากฮฮร์โมนเพศชาย เส้นผมจะมีขนาดค่อยๆเล็กลง เป็น vellus hair และหายไปในที่สุด ก็จะเกิด gap หรือ ช่องว่างขึ้น ซึ่งทางคลินิกเอง จะใส่กราฟผมลงไปบางส่วนในช่องว่าง
อีกส่วนนึงคือ คนไข้ที่มาปลูกผมเพื่อปรับกรอบหน้า โดยไม่ได้มีปัญหาศีรษะบางทางพันธุกรรม ก้ไม่จำเป็นต้องรับประทานยา แต่โดยธรรมชาติของเส้นผม เมื่ออายุมากขึ้น เส้นผมก็จะบางลง และขนาดของเส้นผมจะเล็กลง
คำตอบ คือ จริง ส่วนนึงคับ
สำหรับคนที่แพ้ยาย้อผม ใช้แล้วมีปัญหาผมร่วง กรณีเช่นนี้แนะนำให้เลิกใช้
แต่สำหรับคนที่ไม่มีปัญหาการย้อมสีผม สามารถใช้ต่อได้ ไม่มีปัญหาอะไร รวมทั้งคนที่ปลูกผมก็สามารถย้อมผมได้ หลังจากที่หนังศีรษะกลับมาเป็นปรกติแล้ว โดยทางคลินิกเราแนะนำให้สามารถย้อมสีผมได้ หลังจากปลูกผมไปแล้ว อย่างน้อย 2 เดือน